เนื่องจาก ว่า คนเหล่านี้ ยังอ่อนประสบการณ์มากๆ ข้อมูลในธุรกิจหรือสินค้าก็ยังไม่แน่น
ยังมีความประหม่า บางครั้ง ก็จับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าควรจะนำเสนออะไรก่อน อะไรหลัง พูดติดๆขัดๆ ขาดความมั่นใจ
และที่สำคัญ ที่สุด “ยังขาดความน่าเชื่อถือ”
การสปอนเซอร์คน ด้วยตัวเอง สำหรับ มือใหม่นั้น จึงยากเย็นแสนเข็ญ ยากเสียยิ่งกว่าขายสินค้าซะอีก
คุณอาจจะเคยถามตัวเองบ่อยๆ ว่า ทำไมคนบางคน ถึง นำคนเข้าธุรกิจได้ มากมาย ทุกอาทิตย์ ทุกเดือน
แต่ตัวคุณเอง พยายามแทบตาย ก็ยังไม่มี สัญญาณ ตอบรับ
หรือว่าจะเป็น สินค้าที่คุณขายไม่ดีพอ? หรือจะเป็นบริษัทที่คุณทำไม่เลิศพอ? หรือว่าจะเป็น ทีมของคุณ!!!
หยุดความคิดนี้ไว้เลยครับ หยุดอาการ “Next Big thing” ของคุณไว้ซะ
ผมต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้นั้น ตัวผมเอง ก็ไม่เคยชวนคนเข้าร่วมธุรกิจได้เลย แม้แต่คนเดียวถ้าไม่มี Upline คอยช่วยเหลือ ที่ผมทำได้ก็แค่ “ชวนปิด” หลอกล่อให้เพื่อนฝูงมาโดน Upline หว่านล้อม
แต่หลังจาก ที่ผมได้ เรียนรู้หลักการต่างๆ เหล่านี้ ผลลัพธ์ ที่เกิดขึ้นในธุรกิจ ก็พลิกจาก หน้ามือเป็นหลังมือครับ
หลักการเหล่านี้เป็นอย่างไร?
1. ถ้าคุณต้องการ จะสปอนเซอร์คนให้ได้เดือนละมากๆ คุณต้องได้คุยกับ “ผู้มุ่งหวังที่มีคุณภาพ” และ “มีจำนวนมากพอ”
คุณจะสปอนเซอร์คนเดือนละ 5 คนหรือ มากกว่านั้นได้ยังไงครับ? ถ้า เดือนนึง คุณ มีคนให้คุย แค่เดือนละ 5- 10 คนและยิ่งถ้าเหล่าคนที่คุณได้คุยนั้นเป็น ผู้มุ่งหวังที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้มีความสนใจ ในการทำธุรกิจ โอกาสที่ จะ สปอนเซอร์คนเดือนละมากๆ แทบเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น คุณจะต้อง สร้าง รายชื่อของคุณเอง เพื่อ คัดเลือก กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพให้มีจำนวนมากพอ
ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว อย่าลืมบริหารเวลา ของคุณด้วย
อย่าเสียเวลากับ กลุ่มผู้มุ่งหวัง ที่ไม่มีคุณภาพ และมีจำนวนเพียงหยิบมือ อย่างเช่น กลุ่มคนสนิทมิตรสหายของคุณเอง
แต่จงมุ่งเน้น ทำตลาด กับ กลุ่มผู้มุ่งหวัง ที่มีคุณภาพ มีความพร้อม มีความตั้งใจ จะทำธุรกิจ และที่สำคัญ มีจำนวนมากมาย
2. มุ่งเน้นไปที่ การแก้ปัญหา ให้ ผู้มุ่งหวังของคุณ
หมายความว่ายังไงน่ะเหรอครับ? ผมหมายความว่า เมื่อคุณ เจอ ผู้มุ่งหวังที่มีคุณภาพซักคนแล้ว ผมอยากให้คุณตัดความคิดประเภทที่ว่า“ชั้นจะจับ คนคนนี้ได้ยังไง? หรือทำยังไงจะให้เค๊าสมัครปิดCodeวันนี้” ออกไปให้หมด
แล้วเปลี่ยนตัวคุณเอง จาก “ผู้แทนของสุดยอดบริษัทMLM” ไปเป็น ” ผู้แก้ปัญหาให้กับผู้มุ่งหวัง” แทน
จากนั้นวิเคราะห์ ว่า “อะไรคือสิ่งที่ผู้มุ่งหวังต้องการ” แล้วคุณจะแก้ปัญหาให้เค๊าได้อย่างไร?
คุณต้องเข้าไปนั่งในใจ ของ คนเหล่านี้ให้ได้ แล้ว นำความต้องการของเค๊า
ให้อยู่เหนือความต้องการของคุณ จากนั้นก็เสนอทางออกของปัญหาให้กับเค๊า
ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างที่คุณ มีการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ กับผู้มุ่งหวังถ้าใครซักคน ต้องการ ข้อมูล อะไรก็แล้วแต่ หรือ คุณรู้สึกได้ว่า คนคนนี้ มีความเป็นไปได้ ที่จะเป็นผู้มุ่งหวังที่มีคุณภาพ
แทนที่พยายาม จะขายของ หรือชวนเข้างานประชุม คุณควรจะ ให้ ข้อมูลที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ กับเค๊า โดยไม่หวังผลตอบแทน
เชื่อเเถอะว่าผมเข้าใจครับ ใครๆก็อยากขายสินค้าได้ ใครๆก็อยากสปอนเซอร์คนให้ได้มากๆ
แต่การกดดันให้คนซื้อของหรือเข้าร่วมธุรกิจ ไม่ได้ช่วย “เร่งกระบวนการแห่งความสำเร็จ”ของคุณให้เร็วขึ้นแม้แต่น้อย มีแต่ทำให้ช้าลง
3. อย่าลืมเพิ่มคุณค่าให้กับตัวคุณเองให้มากๆ
ข้อนี้ง่ายมากครับ คุณจะแก้ปัญหาให้คนอื่นได้อย่างไร ถ้าตัวคุณเองไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้นคุณจะให้ “คุณค่า” กับผู้อื่นได้อย่างไร? ถ้าตัวคุณเองไม่มีอะไรจะเสนอ ออกไป?
คุณจะ Brand ตัวเอง ให้เป็นผู้นำ ให้มีคนติดตามมากมายได้ยังไงครับ?
ดังนั้น อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง อยู่เสมอๆ
ตัวผมเอง ทุกวันนี้ยังพิจารณาลงคอร์สต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาตัวเอง ให้เป็นผู้นำที่ดียิ่งขึ้น และธุรกิจของผมให้เติบโตยิ่งขึ้นอยู่เสมอ ไม่เคยหยุดบางคอร์ส ราคา แพงมาก แต่ผมเข้าใจดีว่า มันคุ้มค่าเพราะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น