การเงินคุณเป็นไงบ้างครับ หลายๆ ครั้งที่ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ
มากมายที่ทำให้เราต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง
ของมีค่าโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว
ถ้าเรามีทรัพย์สินหรือเงินทองเพียงพออยู่ในมือแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ
แต่ถ้าเราไม่มีอะไรเลยหละครับก็ต้องสร้างหนี้สินกันอีกครับ เอาง่ายๆ
จากประสบการณ์ของผมเองก็แล้วกันครับ
ผมเป็นพนักงานเงินเดือนทำงานทั้งปีไม่มีเงินเก็บเลยครับ ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้
มันเกิดอะไรขึ้น ผมว่าหลายๆ ท่านคงเป็นเหมือนกัน
รับเงินเดือนตอนสิ้นเดือน
ต้นเดือนก็หมดกันแล้วค่าใช้จ่ายแต่ละคนเข้าใจครับมากมายจริง ๆ ค่าบัตร
ค่าบ้าน ค่ารถ ในเมื่อต้นเดือนเงินจะหมดกันแล้ว
พอมาถึงปลายเดือนสุดท้ายไม่มีเงินกันแล้วครับ
บางคนต้องไปหากู้เงินดอกมาใช้ก่อนในที่สุดก็เลยต้องจมอยู่กับการวนเวียนใช้
หนี้กันต่อไป แล้วถ้าหากมีเรื่องที่จำเป็นต้องใช้เงินหละครับ
ก็ต้องไปกู้เงินดอกมาใช้ก่อนหรือไม่ก็ไปสมัครบัตรกดเงินสดมาใช้จ่าย
ผมว่ามาออมกันดีกว่าครับ ไม่ต้องมากแต่ขอให้มี
การออมเงินอย่าง ที่หัวข้อได้กล่าวไปนั้นทุกท่านสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งแรกที่ท่านต้องรู้คือรายรับกับรายจ่ายครับ ให้ท่านทำบัญชีรายรับรายจ่ายของแต่ละวันเอาไว้ บางท่านบอกไม่มีเวลายุ่งมาก ไม่ต้องทำก็ได้ครับแต่เรามาสร้างนิสัยให้คนในครอบครัวของเรากันครับทำอย่าง ไรใช่มั้ยครับเรามาดูกัน
1. บ้านออมเงิน เป็นการที่คนในครอบครับมีส่วนร่วมในการเก็บเงินช่วยกันโดยหยอดออมสินส่วน กลางกัน วันละครั้งต่อคนเป็นเหมือนกิจวัตรของคนในครอบครัวต้องทำกันทุกคน กิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแต่ได้ออมเงินแต่เป็นการปลูกฝังจิตใต้สำนึกของลูกๆ หลานๆ ในบ้านของเราได้ดีอีกด้วย ไม่จำเป็นว่าจะต้องหยอดออมสินกันมากมีบาทสองบาทก็ได้แล้วแต่คนในครอบครัวเรา ครับ
2.เก็บเงินโดยหักจากบัญชีของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินฝากประจำครับ เพียงแต่แยกบัญชีไปอีกที่ก็เท่านั้นเอง โดยให้หักจากบัญชีของเราเอาไว้ทุกๆ เดือนแต่ถ้าจะให้ดีสำหรับท่านที่เก็บเงินเอาไว้ไม่อยู่ก็น่าจะเปิดบัญชีแบบ ประจำเอาไว้เลยน่าจะดีนะครับ บางท่านถามมาว่าให้หักจากบัญชีของเราไปอีกบัญชีหนึ่งมันก็มีค่าเท่าเดิม ยิ่งฝากไม่ประจำแล้วก็สามารถเบิกได้ตลอดเวลาอยู่ดี เรียนให้ทราบเลยครับจิตวิทยาก็มีผลต่อคนเรามากนะครับ ทำไมคนเราบางคนถึงไม่สามารถเก็บเงินได้ครับเพราะอะไร ก็เพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดการจัดการเงินของตัวเองไงครับ ถ้าเราแยกเงินออกจากกันเราจะรู้ได้เลยว่าเงินก้อนนี้เอาไปใช้อะไร ก้อนไหนเก็บก้อนไหนจ่าย ต่อไปสิ้นเดือนเราก็สามารถบริหารจัดการ การเงินได้เป็นอย่างดี
3.หยุดของฟุ่มเฟือย ให้เรานึกถึงแต่สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราเข้าไว้แล้วให้เรา เปรียบเทียบกันไปเลย ว่าเราจะเลือกใช้อันไหน ถ้าเราหยุดของฟุ่มเฟือยได้ก็จะเป็นการประหยัดมากๆ เลยครับ
การออมเงินง่ายนิดเดียวคุณก็ทำได้
มี อยู่หลายวิธีที่ท่านจะสามารถเก็บออมในแต่ละวันในแต่ละเดือนได้ การที่เราเก็บออมก็เหมือนเป็นการประกันชีวิตของเราเอาไว้เพื่อวันข้างหน้า เราไม่รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการคำรงชีวิตของเราในวันข้างหน้าที่จะ มาถึงนี้ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือเตรีอมตัวของเราให้พร้อม ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นให้ได้โดยที่เราต้องพึ่งพาตัวเรา เองให้ได้เป็นอันดับแรกเสียก่อน ก่อนที่จะไปพึ่งพาคนอื่นเขาเริ่มจะยาวไปกันใหญ่แล้วครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับผมว่า…การออมเงินอย่าง ที่หัวข้อได้กล่าวไปนั้นทุกท่านสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งแรกที่ท่านต้องรู้คือรายรับกับรายจ่ายครับ ให้ท่านทำบัญชีรายรับรายจ่ายของแต่ละวันเอาไว้ บางท่านบอกไม่มีเวลายุ่งมาก ไม่ต้องทำก็ได้ครับแต่เรามาสร้างนิสัยให้คนในครอบครัวของเรากันครับทำอย่าง ไรใช่มั้ยครับเรามาดูกัน
1. บ้านออมเงิน เป็นการที่คนในครอบครับมีส่วนร่วมในการเก็บเงินช่วยกันโดยหยอดออมสินส่วน กลางกัน วันละครั้งต่อคนเป็นเหมือนกิจวัตรของคนในครอบครัวต้องทำกันทุกคน กิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแต่ได้ออมเงินแต่เป็นการปลูกฝังจิตใต้สำนึกของลูกๆ หลานๆ ในบ้านของเราได้ดีอีกด้วย ไม่จำเป็นว่าจะต้องหยอดออมสินกันมากมีบาทสองบาทก็ได้แล้วแต่คนในครอบครัวเรา ครับ
2.เก็บเงินโดยหักจากบัญชีของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินฝากประจำครับ เพียงแต่แยกบัญชีไปอีกที่ก็เท่านั้นเอง โดยให้หักจากบัญชีของเราเอาไว้ทุกๆ เดือนแต่ถ้าจะให้ดีสำหรับท่านที่เก็บเงินเอาไว้ไม่อยู่ก็น่าจะเปิดบัญชีแบบ ประจำเอาไว้เลยน่าจะดีนะครับ บางท่านถามมาว่าให้หักจากบัญชีของเราไปอีกบัญชีหนึ่งมันก็มีค่าเท่าเดิม ยิ่งฝากไม่ประจำแล้วก็สามารถเบิกได้ตลอดเวลาอยู่ดี เรียนให้ทราบเลยครับจิตวิทยาก็มีผลต่อคนเรามากนะครับ ทำไมคนเราบางคนถึงไม่สามารถเก็บเงินได้ครับเพราะอะไร ก็เพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดการจัดการเงินของตัวเองไงครับ ถ้าเราแยกเงินออกจากกันเราจะรู้ได้เลยว่าเงินก้อนนี้เอาไปใช้อะไร ก้อนไหนเก็บก้อนไหนจ่าย ต่อไปสิ้นเดือนเราก็สามารถบริหารจัดการ การเงินได้เป็นอย่างดี
3.หยุดของฟุ่มเฟือย ให้เรานึกถึงแต่สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราเข้าไว้แล้วให้เรา เปรียบเทียบกันไปเลย ว่าเราจะเลือกใช้อันไหน ถ้าเราหยุดของฟุ่มเฟือยได้ก็จะเป็นการประหยัดมากๆ เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น